คุณหญิงกัลยา ร่วมประชุมสภาซีเมค ครั้งที่ 52 ที่ประเทศฟิลิปปินส์

คุณหญิงกัลยา ร่วมประชุมสภาซีเมค ครั้งที่ 52 ที่ประเทศฟิลิปปินส์

ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย พร้อมด้วยนายอรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ นางสาวดุริยา อมตวิวัฒน์ ที่ปรึกษาพิเศษด้านความร่วมมือต่างประเทศ สป. และคณะผู้แทนสำนักความสัมพันธ์ต่างประเทศ สป.ได้เดินทางเข้าร่วมการประชุมสภารัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 52 (สภาซีเมค) ระหว่างวันที่ 8-10 กุมภาพันธ์ 2566 ณ โรงแรม EDSA Shangri-La กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์

โดย ดร.คุณหญิงกัลยา ได้กล่าวในการประชุมว่าต้องการผลักดันเรื่องของการสร้างคุณค่าและความภาคภูมิใจในความเป็นชาติ ให้มีการเรียนการสอนหรือบูรณาการให้เข้ากับการเรียนรู้ในสถานศึกษามากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของ Arts of Life ที่จะต้องผนวกไว้ในการเรียนการสอนด้านสะเต็มศึกษา (STEM) ให้เป็นสตีม (STEAM) ซึ่งรวมถึงความหลากหลายทางด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ วิถีชีวิต ซึ่งถือเป็นหนึ่งในจุดแข็งของประเทศไทย

ดร.คุณหญิงกัลยา กล่าวอีกว่า ได้ให้ความสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกที่ทุกสิ่งอย่างจะขับเคลื่อนการทำงานด้วยเครื่องจักรกลและอิเล็กทรอนิกส์ จึงจำเป็นที่จะต้องส่งเสริมความรู้ความเข้าใจของการทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์และดิจิทัลแบบใหม่ โดยการยกระดับความรู้และทักษะเพื่อให้ผู้เรียนได้สามารถทดลองและเรียนรู้ด้วยตนเองจนเกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้

คุณหญิงกัลยา ร่วมประชุมสภาซีเมค ครั้งที่ 52 ที่ประเทศฟิลิปปินส์

รวมถึงในโลกแห่งการแพทย์ นักเรียนแพทย์จะต้องสามารถลงมือปฏิบัติได้อย่างเสมือนจริง ซึ่งการทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์และดิจิทัลแบบใหม่ จะช่วยลดขั้นตอนในการบริหารจัดการ ลดชั่วโมงการสอนของครู และช่วยให้เจ้าหน้าที่และผู้บริหารได้ทราบข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน เกี่ยวกับจุดเน้นที่จะต้องพัฒนานักเรียน ครู และผู้บริหาร

และนอกจากนี้ ดร.คุณหญิงกัลยา ยังกล่าวถึงความสำคัญของการเรียนรู้วิธีการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านการบริหารงานในองค์กร และให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินงานที่เป็นระบบมากขึ้น การนำองค์ความรู้มาประยุกต์ใช้ ทดสอบ และพิสูจน์ การเสริมสร้างทักษะความร่วมมือเชิงนวัตกรรมการมีมารยาทที่ดี

ทักษะการสื่อสารระหว่างบุคคล การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน การออกแบบและยอมรับวิถีทางใหม่ การเปลี่ยนแปลงตนเองอย่างรวดเร็วเพื่อให้บรรลุผลตามความจำเป็นและความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

“ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้เริ่มสอนเรื่องการเรียนโค้ดดิ้งโดยไม่ใช้คอมพิวเตอร์ (Unplugged Coding) ในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา เพื่อให้นักเรียนเข้าใจถึงลำดับการดำเนินการ ความเชื่อมโยงของเหตุและผล การใช้เหตุผล เพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ และมีความรับผิดชอบ

รวมทั้งได้ผนวกอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญ คือ “ศิลปะแห่งชีวิต” (A : Arts of Life) ในการจัดสะเต็มศึกษา (STEM) ให้เป็น STEAM โดยเชื่อว่าเด็กต้องมีความเข้าใจในเรื่องประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม คุณค่า และวิธีการร่วมมือและพัฒนาความสัมพันธ์กับผู้อื่น”

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ tangotaxidancers.com

แทงบอล

Releated